The PARQ

The PARQ
Bangkok, Thailand
• LEED v4 BD+C: Core and Shell, Gold Level, 2021
• WELLv1: WELL Core, Gold Level, 2023
The PARQ โครงการมิกซ์ยูสแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองจากทั้งมาตรฐาน LEED (LEED BD+C: Core & Shell, Version 4) ระดับ Gold ในปี ค.ศ.2021 และ มาตรฐาน WELL (WELL Core, Version 1) ระดับ Gold ในปีค.ศ.2023 ซึ่งแสดงถึงเจตนารมณ์ของโครงการที่ต้องการให้ THE PARQ เป็นโครงการที่ดีต่อ “สิ่งแวดล้อม” และ “ผู้ใช้งานอาคาร” อย่างแท้จริง
โครงการ The PARQ ตั้งอยู่บนถนนรัชดาภิเษก บริเวณสี่แยกคลองเตย เป็นอาคาร 6 ชั้น มีพื้นที่อาคารรวม 100,617 ตร.ม. ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ Life Well Balanced ที่เน้นการบูรณาการของสถาปัตยกรรมล้ำสมัย การประหยัดพลังงาน การออกแบบอย่างยั่งยืน และบริการสมาร์ทเซอร์วิสแบบครบวงจรเข้าไว้ด้วยกัน โดยสะท้อนผ่าน 7 หมวดมาตรฐานอาคารเขียว LEED ได้แก่ ที่ตั้งโครงการเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Site) การใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ (Water Efficiency) พลังงานและบรรยากาศ (Energy and Atmosphere) วัสดุและทรัพยากร (Material and Resources) คุณภาพสภาพแวดล้อมในอาคาร (Indoor Environmental Quality) นวัตกรรมในการออกแบบ (Innovation in Design) และความสำคัญเร่งด่วนของภูมิภาค (Regional Priority) และส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของผู้ใช้งานสะท้อนผ่านมาตรฐาน WELL 7 ด้าน ได้แก่ คุณภาพอากาศ (Air) คุณภาพน้ำดื่มน้ำใช้ (Water) สุขภาวะทางแสง (Light) สุขภาวะทางด้านอาหาร (Nutrition) สุขภาพร่างกาย (Movement) ความสบาย (Comfort) และสุขภาวะทางจิตใจ (Mind) ซึ่งความพิเศษของการตรวจประเมินโครงการตามมาตรฐาน WELL จะมีเจ้าหน้าที่ที่ผ่านการรับรองจากทาง IWBI (International WELL Building Institute) เข้ามาตรวจวัดคุณภาพที่หน้างาน ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้อาคารจะได้รับประโยชน์จากการใช้งานอาคารที่คำนึงถึงผู้ใช้อาคารทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
โครงการ The PARQ ได้รับการรับรองครอบคลุมมาตรฐาน LEED และ WELL ดังต่อไปนี้
- ที่ตั้งโครงการ
- ที่ตั้งโครงการที่เชื่อมต่อกับรถไฟใต้ดินสถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เป็นการเพิ่มทางเลือกการเข้าถึงอาคาร ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว
- โครงการมีจุดบริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และที่จอดรถจักรยานและห้องอาบน้ำ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว และยังช่วยลดการปล่อยคาร์บอนอีกด้วย



- พื้นที่สีเขียว พื้นที่ภายนอกอาคาร และพื้นที่ออกกำลังกาย
- โครงการมีการจัดสวนขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับเมือง
- พื้นที่ภายนอกอาคารมีร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ บรรยากาศร่มรื่น มีที่สำหรับนั่งพัก มีทางเดินที่เหมาะกับการเดินกึ่งออกกำลังกาย ส่งเสริมให้มีการขยับเคลื่อนไหวร่างกาย ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคจากการนั่งทำงานเป็นระยะเวลานาน
- โครงการลดการสะสมความร้อนที่ทำให้เกิดภาวะเกาะความร้อนในเมือง (Urban heat island) ให้กับกรุงเทพ ด้วยการเลือกใช้วัสดุปูพื้นถนนและทางเดินสีอ่อนสามารถสะท้อนความร้อนได้ดี


- คุณภาพอากาศภายในอาคาร
- การติดตั้งระบบกรองอากาศประสิทธิภาพสูงเพื่อกรองฝุ่น 5 และติดตั้งระบบ UV เพื่อฆ่าเชื้อโรคให้อากาศสะอาดอยู่เสมอ พร้อมระบบเซ็นเซอร์เพื่อติดตามและควบคุมคุณภาพอากาศ และออกแบบอาคารให้มีความดันเป็นบวก เพื่อลดการรั่วไหลของอากาศที่ปนเปื้อนมลภาวะจากภายนอก
- โครงการ The PARQ ได้รับการออกแบบให้มีการเติมอากาศบริสุทธิ์เข้ามาภายในอาคารสูงกว่าค่ามาตรฐานสากลถึง 30%
- การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่มีการระเหยของสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) ในปริมาณต่ำ ทำให้อากาศภายในอาคารสะอาด และลดปัจจัยเสี่ยงจากโรคทางเดินหายใจและมะเร็ง
- การติดตั้ง CO2 sensors เพื่อควบคุมการเติมอากาศบริสุทธิ์ให้เหมาะสมกับกิจกรรมการใช้งานและจำนวนผู้ใช้งานของแต่ละพื้นที่ในอาคาร ณ ช่วงเวลาต่างๆ

- คุณภาพน้ำดื่ม
- การติดตั้งจุดบริการน้ำดื่มสะอาดที่ได้มาตรฐาน ผ่านการกรองด้วยระบบ RO และผ่านการทดสอบคุณภาพน้ำดื่มตามมาตรฐาน WELL

- สุขภาวะทางด้านอาหาร
- โครงการมีสวนผักผลไม้ในพื้นที่ Q Garden สำหรับให้ผู้เช่าสำนักงานสามารถปลูกผักเพื่อรับประทานกินเองได้ นอกจากนี้โครงการตั้งใจคัดสรรร้านอาหารที่ดีต่อสุขภาพให้กับผู้ใช้อาคาร ทั้งร้านอาหารเพื่อสุขภาพ ร้านขนมและของว่างที่ไม่ผ่านกระบวนการแปรรูป (Non-processed food) และร้านอาหารที่เน้นเมนูผักผลไม้สด

- สุขภาวะทางแสง
- การออกแบบโคมไฟในพื้นที่ออฟฟิศโดยการใช้หลอดไฟประหยัดพลังงาน LED ร่วมกับการติดตั้ง Daylight Sensor ที่ควบคุมให้หลอดไฟปิดอัตโนมัติในขณะที่มีการนำแสงธรรมชาติเข้ามาใช้ในอาคาร ออกแบบโคมไฟให้มีอัตราความจ้าของแสง (Unified Glare Rating) ต่ำกว่า 19 เพื่อลดการเกิดแสงจ้าบาดตาในขณะทำงาน และเป็นการถนอมสายตาผู้ใช้งานอาคาร นอกจากนั้นยังมีการใช้โคมไฟที่คำนึงถึงนาฬิกาชีวภาพซึ่งจะส่งผลดีต่อวงจรการนอนหลับในเวลากลางคืน

- การส่งเสริมสุขภาพร่างกาย
- การออกแบบแบบ Touch-free ตั้งแต่ประตูทางเข้า และติดตั้งระบบคัดกรองคนเข้าอาคารแบบลดการสัมผัส เพื่อความปลอดภัยและป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโรค
- การส่งเสริมความรู้ด้านสุขภาพ ด้วยห้องสมุดสุขภาพออนไลน์ จัดให้มีกิจกรรมหลากหลาย และประชาสัมพันธ์ผ่าน Digital Media
- การเลือกร้านค้าปลีกระดับพรีเมียม ซึ่งครอบคลุมร้านอาหาร ร้านค้า ฟิตเนส สิ่งอำนวยความสะดวกด้านสุขภาพและความงามมากมาย ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการสำหรับทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้อาคาร ผู้มาเยือน และผู้คนที่อยู่ในบริเวณโดยรอบ ภายใต้แนวคิด “Life Well Balanced” ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนและปฏิวัติรูปแบบของการทำงานและการใช้ชีวิตในเมือง



- ความน่าสบาย
- ระบบปรับอากาศภายในอาคารผ่านการทดสอบการตรวจวัดอุณหภูมิและความชื้นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับระดับ Metabolism ของกิจกรรมที่เกิดขึ้นในพื้นที่นั้นๆ ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกสบายในทุกๆพื้นที่
- การป้องกันความร้อนและเสียงรบกวนจากภายนอก ด้วยการใช้กระจก 2 ชั้น ที่มีฉนวนอากาศตรงกลาง (Double Glazing) ร่วมกับการใช้ฝ้าเพดานดูดซับเสียง ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกสบาย ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพในการทำงาน ป้องกันมลภาวะทางเสียงจากการจราจรภายนอกและเสียงสะท้อนภายในอาคาร


- สุขภาวะทางจิตใจ
- การออกแบบโดยใช้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ (Biophilic design) สอดผสานกับการจัดวางชิ้นงานศิลปะ เพื่อสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย ช่วยลดความเครียด

- การจัดการทรัพยากรน้ำ
- การเลือกใช้สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ บริเวณพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด ทำให้สามารถลดการใช้น้ำลงได้ถึง 40%
- การนำน้ำเสียกลับมาใช้ภายในโครงการ โดยนำมาผ่านกระบวนการกรองก่อนนำไปใช้รดน้ำต้นไม้บริเวณสวน ร่วมกับระบบการรดน้ำต้นไม้แบบระบบน้ำหยด ช่วยให้สามารถลดปริมาณการใช้น้ำได้เพิ่มขึ้น
- การประหยัดพลังงาน
- โครงการเลือกใช้ระบบปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง ติดตั้งพัดลมสมรรถนะสูงชนิด Electronically Commutated ในระบบจ่ายลมเย็น ร่วมกับการใช้ผนังกระจกอาคารแบบ Insulated Glass เพื่อลดการใช้พลังงานจากการทำความเย็น ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการลดการปล่อยคาร์บอนทางตรง
- การติดตั้ง Lighting Sensors และ IoT Platform ช่วยปรับเพิ่ม-ลดแสงธรรมชาติให้เข้ามาภายในอาคารอย่างเหมาะสม ช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าแสงสว่างในเวลากลางวัน
- นวัตกรรม
- โครงการติดตั้งระบบจัดการที่จอดรถอัจฉริยะ รองรับระบบการติดตามความหนาแน่นและจัดการการเข้า-ออกของรถยนต์ภายในลานจอด ทำให้ผู้ใช้งานประหยัดเวลายิ่งขึ้น
- โครงการมีแผนการกำจัดขยะ โดยมีจุดแยกขยะรีไซเคิลที่แบ่งประเภทอย่างถูกต้องและมีพื้นที่เพียงพอ มีการติดตั้งเครื่อง Food Composter ในโครงการ ช่วยลดปัญหาขยะอาหาร (Food Waste) โดยการนำขยะเศษอาหารมาทำเป็นปุ๋ยเพื่อนำไปใช้ดูแลต้นไม้ในโครงการแทนการใช้ปุ๋ยเคมี



ศึกษาข้อมูลโครงการเพิ่มเติม: https://www.theparq.com/sustainability
#ThePARQ #LifeWellBalanced #LEED #LEEDCertified #WELL #WELLCertified #อาคารเขียว #GreenBuilding #WellBeing #SustainableArchitecture #Africvs #แอฟริคัส